อนุทิน ชี้สาเหตุที่ไทยเจอผู้ป่วยโควิด โอมิครอน เพิ่มขึ้นเพราะไม่ได้ปิดประเทศ มั่นใจในมาตรการตรวจจับป้องกันแพร่ระบาดได้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับพบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่ในขณะนี้พบแล้ว 14 ราย
โดยนายอนุทินระบุว่า ขณะนี้เชื้อโอมิครอนก็ไปทั่วโลกแล้ว
ประเทศไทยก็คงไม่ถูกยกเว้น เพราะเราไม่ได้ปิดประเทศ เรายังให้คนสัญจรไปมาอยู่ แต่เรามีมาตรการ คนเข้ามาประเทศไทยถ้ามาถูกกฎหมายอย่างไรก็ไม่หลุด
ส่วนการลักลอบเข้าผิดกฎหมาย ฝ่ายความมั่นคงก็ดูแลอย่างเต็มที่ แต่ผู้ที่เข้ามาอย่างถูกกฎหมายทางท่าอากาศยานจะต้องมีการผลตรวจ RT-PCR เป็นลบก่อนขึ้นเครื่อง 72 ชั่วโมง และมาถึงประเทศไทยต้องตรวจซ้ำอีกรอบ ซึ่งตอนแรกเราจะเปลี่ยนเป็น ATK ในระบบ Test&Go เพื่อความรวดเร็ว แต่พอมีโอมิครอนเราก็เฝ้าระวังตระหนักรู้ กลับมาใช้ RT-PCR เหมือนเดิม ยังไม่สามารถ Test&Go แบบเร็วๆ ได้
“การที่เราจับได้หมายความว่าระบบการตรวจสอบของเราทำงาน คนที่มาด้วยโอมิครอนก็ถูกกักตัวนำไปรักษา ซึ่งเรารักษาคนต่างชาติได้ เพราะคนต่างชาติที่เดินทางมาต้องซื้อประกันสุขภาพวงเงิน 5 หมื่นเหรียญสหรัฐ หรือล้านกว่าบาท ประเทศไทยก็ไม่เสียประโยชน์ ส่วนคนไทยที่เข้ามามีสิทธิรักษาตามระบบหลักประกันสุขภาพ ก็ต้องยอมรับกติกาแบบนี้
ทั้งนี้ เชื่อว่าวัคซีนที่ประเทศไทยฉีดให้สามารถป้องกันโอมิครอนได้ ความรุนแรงของโอมิครอนที่ยืนยันมาโดยตลอดก็ไม่ได้รุนแรงมากไปก่วาเชื้อสายพันธุ์อื่นที่ประสบมา อย่างเดลต้า อัลฟา ยังมีความรุนแรงใกล้เคียงกัน”
กรมควบคุมโรคกำลังเร่งรณรงค์ให้ประชาชนมารับวัคซีนเข็ม 3 ขอยืนยันก่อนว่า เข็ม 3 ที่จะให้ปีระชาชนไทยมีแล้ว สามารถมารับได้ตามกำหนด เช่น ตอนนี้ผู้ที่ได้รับซิโนแวค 2 เข็ม แอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ที่เป็นวัคซีนคู่จนถึงเมื่อ ก.ย.สามารถมารับเข็ม 3 ได้เลย
ซึ่งซิโนแวค 2 เข็มมาบูสต์ด้วยแอสตร้าฯ หากเป็นแอสตร้าฯ 2 เข็ม ก็ต่อด้วย mRNA ทุกอย่างมีกระบวนการขอให้ทำตาม เราได้ประชุมในส่วนของ กทม.ก็จะได้ดำเนินการแจ้งประชาชนมารับเข็ม 3 เพราะมีข้อมูลอยู่แล้ว ฉีดที่ไหนไปรับที่นั่น กรมควบคุมโรคจะกระจายวัคซีนออกไปให้เร็วที่สุด ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ก็ได้รับทราบและร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมาขอวัคซีนจากกรมควบคุมโรคที่ดำเนินการจัดส่งต่อไป” นายอนุทินกล่าว
‘ธนกร’ เผย ‘ประยุทธ์’ กำชับเร่ง ฉีดวัคซีนเชิงรุก รับมือ ‘โอมิครอน’
ธนกร เผยว่า นายกฯได้กำชับให้เร่ง ฉีดวัคซีนเชิงรุก เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิดโอมิครอน โดยขณะนี้ฉีดวัคซีนสะสมแล้ว 98 ล้านโดส
วันที่ 17 ธันวาคม 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยหลังจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ประกาศให้วันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่าน เป็นดีเดย์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดพร้อมกันทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนคนไทย 100 ล้านโดส ภายในปี 2564 ซึ่งเหลือเวลาอีก 14 วัน ในการเดินหน้าฉีดวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดส ขณะนี้ไทยฉีดวัคซีนสะสม ตั้งแต่ 28 ก.พ. – 16 ธ.ค. 2564 รวม 98,975,997 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 50,302,833 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 44,008,053 ราย และผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 สะสม : 4,611,153 ราย
ล่าสุด นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับทุกจังหวัดจัดบริการฉีดวัคซีนเชิงรุกทุกกลุ่มทั้งคนไทยและต่างชาติ เน้นกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงยาก และให้จัดทำแผนขอรับการสนับสนุนวัคซีนรายเดือนไปยังกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งให้เร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกัน หลังโควิด-19 มีเชื้อกลายพันธุ์ที่สามารถแพร่ระบาดได้เร็วขึ้น จำเป็นต้องใช้ภูมิต้านทานสู้กับสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้นให้กับตนเองและครอบครัว ลดป่วยรุนแรง ลดการเสียชีวิต เตรียมพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโอไมครอน ซึ่งกำลังระบาดไปทั่วโลกในขณะนี้
ทั้งนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 มีแผนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ภายในเดือนธันวาคม 2564 อย่างน้อยจำนวน 6.6 ล้านโดส และจะดำเนินการแผนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นตามแนวทางใหม่ตามคำแนะนำการ ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค โดยมีแผนงานดังต่อไปนี้
– ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเดือนสิงหาคม-กันยายน 2564 สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือนธันวาคม 2564
– ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเดือนกันยายน-ตุลาคม 2564 สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือนมกราคม 2565
-ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเดือนตุลาคม- พฤศจิกายน 2564 สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2565
-ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเดือนพฤศจิกายน- ธันวาคม 2564 สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือนมีนาคม 2565
ผู้สมัครรายนี้เคยโดนลอบทำร้ายเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 63 ถูกชายฉกรรจ์จำนวน 4 – 5 คน เข้ามารุมทำร้ายร่างกายที่หน้าบ้านพักอย่างไม่มีสาเหตุ โดยประยูรได้รับบาดเจ็บสาหัสนิ้วกลางหัก ต้องเข้ารับการผ่าตัดถึง 2 ครั้ง และเย็บแผลที่ศีรษะกว่า 21 เข็ม รวมถึงได้รับบาดแผลตามร่างกายต่าง ๆ อีกมาก แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่สามารถติดตามผู้บงการมารับบทลงโทษตามกฎหมายได้
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป
